
กลายเป็นกระแสแชร์ส่งต่อในโลกสังคมออนไลน์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้ ต่อเรื่องราวความรักของครูสาวรายหนึ่ง ซึ่งถูกเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Rassamimarn Thanasap เล่าถึงเรื่องราวความผูกพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นระหว่างครู และลูกศิษย์ จนเกิดเป็นความรัก ที่แม้จะดูเหมือนว่าพวกเค้าได้เจอรักแท้ ที่ไม่มีเรื่องของอายุมาเป็นอุปสรรค แต่ตอนจบของเรื่องนี้กลับพีคหนัก จนทำน้ำตาไหลพรากโดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว ...
โดยเจ้าของเฟซบุ๊กได้โพสต์อัลบั้มภาพหวานที่ได้เก็บสะสมไว้ พร้อมเล่าเรื่องราวความรักของเธอ เป็นการบรรยายภาพต่างๆ ดังต่อไปนี้ ..
" สวัสดีค่ะ เราชื่อมาย 😊
ส่วนคนข้างๆคือแฟนเราเอง ชื่อว่าเบส🐷💕 ลองกดเข้าไปในรูป..แล้วเลื่อนอ่านดูสิ 😊 "
เรากับเบสอายุห่างกัน 6 ปี
เบส 16 ส่วนเราอายุ 22
เราเป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษ ส่วนเบสเป็นเด็กนักเรียนในสังกัด555555
ตั้งแต่วันที่เราเจอกัน...เค้าตั้งใจเรียนมากขึ้น....ลงมาเรียนมากขึ้น.... แถมทำการบ้านมาส่งเราทุกวันด้วยนะ ☺️
วันนั้น ในรูปนี้...เราสองคนถูกปล่อยทิ้งไว้ในร้านขนมกันสองคน และวันนั้นเค้าก็บอกชอบเรา เค้าบอกกับเราว่าอยากจะดูแลเราให้ดีที่สุด.... เค้าพร้อมที่จะเปลี่ยนตัวเองจากเด็กดื้อ ให้กลายเป็นเด็กดี. จากคนไม่เอาถ่านให้กลายเป็นคนที่มีคุณค่า และเค้าจะทำทุกอย่างนั้นเพื่อเรา... 😊
เบสคอยบอกว่ารักเราทุกวัน คอยดูแลไม่ห่าง ไม่เคยปล่อยให้ใครรังแกเราได้....
เบสไปเที่ยวกับเรา สนุกกับเรา ถึงแม้จะไม่ค่อยมีเงินไปไหนมาไหน แต่เราก็จะแบ่งปันกันเสมอ...
และคอยดูแลเราเสมอ..😊
แล้วก็ยังทะเลาะกันด้วย..
เบสชอบบอกเราว่า."ขอบคุณตัวเองนะที่รักเค้า ทั้งที่เค้าไม่มีอะไร ขอบคุณที่เลือกเค้า ทั้งที่ตัวเองก็เลือกคนอื่นได้อีกมากมาย"...
ถ้าเบสอยู่กับเราตอนนี้ เราก็อยากจะบอกเบสว่า..มายก็รักเบสและขอบคุณเบสมากๆนะ ที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตมาย.. ถึงแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่มายก็มีความสุขมาก และมีความสุขทุกวัน... มายไม่เคยหวังอะไรจากเบส รักทั้งหมดที่มีก็ให้เบสไปแล้วทั้งนั้น... แต่เบสจะได้ยินไหมนะ... เพราะว่าเบสไม่อยู่แล้ว
เพราะเบสเค้าหนีเรา...
เราอยากบอกทุกคนว่า ... ถ้าวันนี้คุณมีคนที่รัก และยังอยู่ด้วยกัน.. อย่าเสียเวลาทะเลาะกันเลย.. เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า วันไหนคนที่เรารักสุดหัวใจคนนั้นจะไม่ได้อยู่กับเราอีกแล้ว...
ความรักจะเป็นสิ่งที่น่ากลัว หรือเป็นสิ่งที่สวยงาม มันขึ้นอยู่กับเรา...อยู่ที่เราจะเลือก ว่าจะทำวันนี้กับคนที่เรารักให้เป็นยังไง ...เท่านั้นเองค่ะ😊
คนตายนั้นไม่มีเสียงอีกแล้ว อะไรที่เกิดขึ้นกับเขา เขาไม่สามารถลุกขึ้นมาพูดหรือต่อสู้เพื่อตัวเองได้ แต่คนเป็น.. คนที่อยู่ต่างหากที่จะต้องสู้เพื่อคนที่เขาสูญเสียไปไม่มีวันหวนกลับ.. ก่อนอื่นเราขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ทุกๆคนมีให้เราและครอบครัวของเบส ขอบคุณจริงๆนะคะ🙏🏻😊 หลายคนเห็นโพสของเราและถามเราว่า "เบสเสียเพราะอะไรคะ".... พูดตรงๆเราไม่เคยโกรธเคืองใครที่ถามเข้ามาเลย เราอยากตอบให้ครบทุกคนด้วยซ้ำ ... วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังนะคะ ว่าเบส หรือนายชินบัญชร เกิดศิริกุลวงษ์นั้น เสียชีวิตด้วยเหตุอะไร...
เบสได้เข้าพักที่โรงแรม Cochrane place เมือง Kerseong ประเทศอินเดียในวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมาพร้อมกับเด็กนักเรียนไทยอีก4คน และผู้ปกครองทั้งหมด7คน. เราเองได้มีโอกาสคุยกับผู้ปกครองที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่เบสเสียชีวิตเนื่องจากเราและแม่ของเบสบินไปรับศพเบสกลับมาประเทศไทยด้วยตัวเอง. ผู้ปกครองผู้อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่าเขาและนักเรียนไทยผู้ชายอีกสองคนมีอาการเวียนหัว คล้ายจะเป็นลม หมดแรง มีอาการเหมือนมึนเมามาตั้งแต่ช่วงแรกของการเข้าพัก บางท่านได้กลิ่นเหมือนแก๊ส และได้ขอร้องให้ทางโรงแรมตรวจสอบความเรียบร้อยของต้นเหตุของกลิ่นน่าสงสัย...แต่ทางโรงแรมไม่สนใจจะมาดูแลใดๆ. ผู้ปกครองจึงตัดสินใจที่จะนอนหลับไปพร้อมกับหน้าต่างที่เปิดระบายอากาศเพียงบานเดียวเท่านั้น.. เช้าวันต่อมา ผู้ปกครองและนักเรียนสองคนดังกล่าวยังคงมีอาการเหมือนเดิม คือลักษณะเหมือนมึนเมา เวียนหัว หมดแรง หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม จึงเรียกให้ผู้ปกครองที่พักอยู่อีกห้องหนึ่งมาช่วยดูอาการของตนและลูกชาย. ในขณะนั้น เบสที่เพิ่งตื่นนอนตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวขึ้นไปเรียนหนังสือวันแรกก็ปิดประตูห้องน้ำมิดชิดเพื่ออาบน้ำ และไม่ได้กลับออกมาอีกเลย...
ในขณะที่เบสอยู่ในห้องน้ำนั้น มีคนเอะใจว่าเบสอาบน้ำนานเกินไปไหม จึงได้รีบวิ่งลงไปดู เนื่องจากมีอาการตงิดใจเพราะผู้ปกครองและเด็กอีกสองคนมีอาการไม่ค่อยจะดี และสิ่งที่อยู่หลังประตูห้องน้ำที่คนได้ช่วยกันพังเข้าไปนั้น คือร่างของเบสที่นอนไร้ลมหายใจอยู่บนพื้นห้องน้ำนั่นเอง.... ผู้ปกครองที่พังเข้ามาช่วยเบสได้ทำการ CPR หรือการผายปอดให้เบส ในขณะนั้นผู้ปกครองดังกล่าว กล่าวว่าเมื่อทำการผายปอด มีควันเหม็นพุ่งออกมาจากปากของเบสเป็นจำนวนมาก เมื่อดมเข้าไปก็มีอาการเวียนหัวไปตามๆกัน.. พวกเขาตัดสินใจพาเบสไปส่งโรงพยาบาล ในขณะนั้นเองน้องสองคนที่อาการไม่ดีมาตั้งแต่แรกก็หมดสติไป และได้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลพร้อมกับเบสในเวลาเดียวกัน
เหตุการณ์คร่าวๆเป็นแบบนี้ค่ะ แต่น่าแปลกนะคะ ที่โรงแรมปฏิเสธที่จะรับผิดชอบแม้แต่ค่าโรงศพของเบส เจ้าของโรงแรมดังกล่าวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเรื่องแก๊ส พร้อมทั้งให้การกับตำรวจในทางที่ว่าเบสแพ้อาหารแล้วเสียชีวิตไปเอง...ได้ยินมาว่าวิเคราะห์กันไปว่าเบสเสพยาเกินขนาดจนเสียชีวิตด้วยนะคะ.. ขณะนี้โรงแรมได้ถูกปิดแล้วค่ะ แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น.. เพราะอะไรหรอคะ? เพราะมีคนตายต่อจากเบสอีก1คนในเวลาต่อมาไม่ถึง1อาทิตย์ ในห้องน้ำของโรงแรมเดิมและยังมีอาการเดียวกันค่ะ..
ทางเราไม่ขอกล่าวหาโรงแรมใดๆทั้งสิ้น แต่อยากให้คดีเป็นไปอย่างยุติธรรม.. เพื่อที่ชีวิตหนึ่งชีวิตที่กำลังจะมีอนาคตที่สดใสได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินคดี ไม่ใช่ตายฟรีแล้วคดีเงียบไปค่ะ 🙃
มายสู้เพื่อเบสมาตลอด และจะทำต่อไปจนกว่าเบสจะได้รับความยุติธรรม....
หากไม่เป็นการรบกวน แชร์โพสนี้ต่อให้หน่อยนะคะ เพื่อเป็นอีก1เสียงในการช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตให้ได้รับความเป็นธรรมค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ 🙏🏻
ขอบคุณที่มาจาก FB Rassamimarn Thanasap,ที่มา:tsood
No comments:
Post a Comment